วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552
บทความการศึกษา
การศึกษา คือการสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นมีลักษณะนิสัยจิตใจที่ดีงาม มีความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อตนเองและสังคม มีความพร้อมที่จะ ประกอบการงานอาชีพได้ การศึกษาช่วยให้คนเจริญงอกงาม ทั้งทางปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสังคม การศึกษาจึงเป็นความจำเป็นของชีวิตอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากความจำเป็น ด้านที่อยู่อาศัย อาหารเครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค การศึกษาจึงเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เป็นปัจจัยที่จะช่วยแก้ปัญหาทุก ๆ ด้านของชีวิตและเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของชีวิตในโลกที่มีกระแสความเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์และเท คโนโลยีอย่าง รวดเร็ว และส่งผลกระทบให้วิถีดำรงชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันการศึกษายิ่งมีบทบาทและความจำเป็น มากขึ้นด้วย การศึกษาที่จะช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี มีความสุข จะต้องมีลักษณะ ที่สำคัญดังนี้
1. เป็นการศึกษาที่ให้ความรู้ และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เช่น ความรู้และทักษะทางด้านภาษา การคิดคำนวณ ความเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นต้น สภาพปัจจุบันมีความจำเป็นต้องสนับสนุนให้ทุกคนได้รับการศึกษาขั้น พื้นฐานอย่างน้อย 12 ปี จึงจะเพียงพอกับความต้องการและความจำเป็นที่จะยกระดับ คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
2. การศึกษาทำให้คนเป็นคนฉลาด เป็นคนมีเหตุผล คิดเป็นแก้ปัญหาเป็น และ รู้จักวิธีแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และเพื่อการงานอาชีพ
3. การศึกษาต้องสร้างนิสัยที่ดีงาม ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนโดยเฉพาะนิสัยรักการ เรียนรู้ และนิสัยอื่น ๆ เช่นความเป็นคนซื่อสัตย์ ขยัน อดทน รับผิดชอบ เป็นต้น
4. การศึกษาต้องสร้างความงอกงามทางร่างกาย มีสุขภาพพลามัยที่ดี รู้จัก รักษาตนให้แข็งแรง ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ และสารพิษ
5. การศึกษาต้องทำให้ผู้เรียนไม่เป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นความสำคัญของประโยชน์ส่วนรวมให้ความร่วมมือกับผู้อื่นในสังคม อยู่รวมกับผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยสร้างสังคมที่สงบเป็นสุข รักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน
6. การศึกษาต้องทำให้คนมีทักษะการงานอาชีพที่เพียงพอกับการเข้าสู่การงานอาชีพ รู้จักการประกอบอาชีพและรู้จักพัฒนาการงานอาชีพ ทั้ง 6 ประการ เป็นพื้นฐานทางการศึกษาที่จำเป็น ที่คนจะต้องได้รับรู้อย่างทั่วถึงทุกคน ถ้าทุกคนได้รับอย่างครบถ้วน เพียงพอก็จะทำให้เกิดทักษะลักษณะและนิสัยที่พึงประสงค์ได้ การศึกษาจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพียงสำหรับคนบางคน แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่ขาดความพร้อมในปัจจัยต่าง ๆ เพื่อการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพ ยิ่งมีความ จำเป็นมากที่สุด คนที่ขาดความพร้อมต้องการการศึกษามาก มักเป็นกลุ่มคนที่ถูกลืมตลอดเวลา การศึกษาที่ได้รับก็มักเป็นบริการที่กระท่อนกระแท่น ไม่เพียงพอกับการเรียนรู้ที่เหมาะสม ไม่พอแม้เพียงเพื่อดำรงชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย ตรงข้ามกับผู้ที่มีความพร้อมพอจะช่วยตนเองได้ กลับได้รับบริการที่มีคุณภาพและปริมาณที่ดีกว่ามาก ดังจะเห็นได้จากสถานศึกษาในเมืองกับในชนบท ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในทุก ๆ ด้าน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ การศึกษานอกจาก จะไม่สามารถสร้างความพร้อมที่เพียงพอกับผู้ต้องการแล้ว ยังส่งเสริมให้ช่องว่างระหว่าง คนรวยกับคนจนแตกต่างกันมากขึ้นด้วย เพื่อให้การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างชาติ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับยุทธศาสตร์การศึกษาเสียใหม่ให้หันมาให้ความสำคัญกับคนยากจนคนเสียเปรียบ และคนด้อยโอกาสให้มากขึ้นทรัพยากรของรัฐต้องนำมาใช้จ่าย เพื่อปรับปรุงบริการการศึกษา สำหรับคนยากจนให้ดีขึ้นเป็นพิเศษ ให้เพียงพอกับการสร้างลักษณะสิสัยและความพร้อมที่จำเป็น ถ้าคนยากจน คนเสียเปรียบ คนด้อยโอกาสได้รับการศึกษาที่เหมาะสม และมีคุณภาพ แล้ว ปัญหาต่าง ๆ ในบ้านเมืองก็จะลดน้อยลงไปโดยปริยายและยังทำให้เขากลายเป็นกำลัง สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดีด้วย การศึกษานอกจากเป็นปัจจัยที่ 5 แล้ว ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิต และเป็นปัจจัยเพื่อความรุ่งเรืองของประเทศชาติในอนาคตอีกด้วย เราจงฝากความหวังของชาติ ด้วยการพัฒนาการศึกษากันเถิด
สมุนไพรรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
สาเหตุของโรคดังกล่าวยังไม่ชัดเจน ปกติจะมีสารเมือก (mucin) หลั่งออกจากต่อมในส่วนล่างของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและส่วนบนของลำไส้เล็ก เพื่อป้องกันเยื่อบุกระเพาะจากฤทธิ์กัดของน้ำย่อยที่เป็นกรดอย่างแรง แต่มีปัจจัยบางอย่างที่คาดว่าจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง เกิดการอักเสบและเป็นแผลได้ง่าย เช่น ภาวะขาดอาหาร ภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานยาหรือสารบางชนิดที่กัดกระเพาะ สูบบุหรี่จัด ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมากหรือเนื่องจากกรรมพันธุ์
อาการระยะแรก คือ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ อาจมีความรู้สึกอิ่มแน่นหรือหิวร่วมด้วย แผลในกระเพาะอาหารมักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 1-ชั่วโมงครึ่ง ส่วนแผลในลำไส้มักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 2-4 ชั่วโมง และช่วงดึกหลังเที่ยงคืนด้วย การรักษาจะไม่หายขาด ผู้ป่วยจะต้องดูแลตนเองคล้ายกับผู้ป่วยท้องอืด ท้องเฟ้อ ระยะที่ปวดท้องควรดื่มนมถั่วเหลืองทุก 3-4 ชั่วโมงพร้อมทั้งใช้สมุนไพรที่แนะนำ รับประทานอาหารอ่อน ทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่ทานบ่อยๆ งดอาหารรสจัดและสิ่งต้องห้ามข้างต้น และหาทางคลายเครียดด้วย จะมีสมุนไพรที่ช่วยรักษาเยื่อบุทางเดินอาหารให้แข็งแรงขึ้น และควรใช้สมุนไพรขับลมร่วมด้วย
กล้วยน้ำว้ารับประทานผลดิบสดครั้งละครึ่งถึง 1 ผล อาจใช้ผลดิบหั่นบางๆตากแห้ง บดเป็นผงชงน้ำดื่ม ใช้ผงยาเท่ากับครึ่งถึง 1 ผล ข้อควรระวัง อาจมีอาการท้องอืดหลังรับประทานยานี้ แก้ได้โดยดื่มน้ำต้มขิงหรือสมุนไพรขับลมอื่นๆขมิ้นชันผงขมิ้นครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอนหรือปั้นเป็นลูกกลอนขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 2 เม็ด
สาเหตุของโรคดังกล่าวยังไม่ชัดเจน ปกติจะมีสารเมือก (mucin) หลั่งออกจากต่อมในส่วนล่างของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและส่วนบนของลำไส้เล็ก เพื่อป้องกันเยื่อบุกระเพาะจากฤทธิ์กัดของน้ำย่อยที่เป็นกรดอย่างแรง แต่มีปัจจัยบางอย่างที่คาดว่าจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง เกิดการอักเสบและเป็นแผลได้ง่าย เช่น ภาวะขาดอาหาร ภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานยาหรือสารบางชนิดที่กัดกระเพาะ สูบบุหรี่จัด ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมากหรือเนื่องจากกรรมพันธุ์
อาการระยะแรก คือ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ อาจมีความรู้สึกอิ่มแน่นหรือหิวร่วมด้วย แผลในกระเพาะอาหารมักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 1-ชั่วโมงครึ่ง ส่วนแผลในลำไส้มักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 2-4 ชั่วโมง และช่วงดึกหลังเที่ยงคืนด้วย การรักษาจะไม่หายขาด ผู้ป่วยจะต้องดูแลตนเองคล้ายกับผู้ป่วยท้องอืด ท้องเฟ้อ ระยะที่ปวดท้องควรดื่มนมถั่วเหลืองทุก 3-4 ชั่วโมงพร้อมทั้งใช้สมุนไพรที่แนะนำ รับประทานอาหารอ่อน ทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่ทานบ่อยๆ งดอาหารรสจัดและสิ่งต้องห้ามข้างต้น และหาทางคลายเครียดด้วย จะมีสมุนไพรที่ช่วยรักษาเยื่อบุทางเดินอาหารให้แข็งแรงขึ้น และควรใช้สมุนไพรขับลมร่วมด้วย
กล้วยน้ำว้ารับประทานผลดิบสดครั้งละครึ่งถึง 1 ผล อาจใช้ผลดิบหั่นบางๆตากแห้ง บดเป็นผงชงน้ำดื่ม ใช้ผงยาเท่ากับครึ่งถึง 1 ผล ข้อควรระวัง อาจมีอาการท้องอืดหลังรับประทานยานี้ แก้ได้โดยดื่มน้ำต้มขิงหรือสมุนไพรขับลมอื่นๆขมิ้นชันผงขมิ้นครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอนหรือปั้นเป็นลูกกลอนขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 2 เม็ด
ความรัก ความจริงใจ ความประทับใจ ความผูกพัน
กาลครั้งหนึ่ง...มีเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า 'ความรัก' ความรักไม่รู้ว่าเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เขาไม่เคยเห็นผู้ให้กำเนิด 'ความรัก' เกิดมาท่ามกลางความมืดมนและว่างเปล่า... ความรักเฝ้าตามหาอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขารู้สึกไม่เหน็บหนาวเขาอ้างว้าง เขาสับสน เขาอยู่คนเดียวมานานเกินพอ... ...เขารู้สึกว่าอะไรยังขาดหายไปความรักเริ่มออกเดินทางบนถนนสายที่ไม่มีจุดเริ่มต้น... ถนนสายนี้ทอดยาวไกลไปในความมืดมิด...และดูท่าไม่มีที่สิ้นสุด ความรักเริ่มท้อใจ...เมื่อไหร่เขาจะเจอเพื่อนร่วมทางเสียที...แสงสว่างเล็กๆ กระพริบพราวท่ามกลางความมืดรอบกาย แล้วหายไป...ความรักดีใจมาก ในที่สุดก็มีแสงสว่างจุดขึ้นมาแล้ว เขาเดินเข้าใกล้...และพบกับใครคนหนึ่งที่นั่งกอดเข่าอยู่เดียวดาย ...เธอคนนั้นคือ 'ความจริงใจ'...ความจริงใจบอกกับความรักว่าเธอถูกสั่งให้มาเฝ้ารอใครสักคน...เธอนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้ว...นานจนแทบจะหมดหวัง... เธอเห็นแสงสว่างอยู่ไกลๆ...และความรักก็เข้ามาหาเธอ ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน...ไม่ต้องให้มีใครบอกเขาก็รู้ พวกเขาทั้งคู่ต้องก้าวไปด้วยกัน... ความรักส่งมือให้ความจริงใจจับเอาไว้ แล้วพวกเขาก็เริ่มก้าวเดิน...ก้าวที่ทั้งสองเดินไปค่อยๆย่างอย่างช้าๆ...ไม่รีบร้อน อาจจะมีมรสุมพัดกระหน่ำเข้ามาบ้างแต่มือที่จับกันเอาไว้ไม่เคยปล่อย... ผ่านลมที่โหมกระหน่ำผ่านความมืดและความเหน็บหนาว... ผ่านหลายๆสิ่งมาด้วยกันและแล้วก็มีเด็กน้อยๆสองคนจูงมือกันเข้ามา...เด็กน้อยคนหนึ่งที่ดูบอบบางและอ่อนแอราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ แต่อีกคนกลับดูเข้มแข็ง...และคอยปกป้องอีกคนเสมอพวกเขาแนะนำตัวว่าเขาคือ 'ความประทับใจ' และ 'ความผูกพัน'ความรักและความจริงใจอุ้มเด็กทั้งสองมาแล้วร่วมเดินบนเส้นทางไปด้วยกัน...เส้นทางที่เคยมืดสนิทเริ่มมีแสงจางๆส่องรำไร... ถนนสายที่ดูยาวไกลไม่สิ้นสุด ตอนนี้กลับเห็นปลายทางสว่างริบหรี่......ในใจของพวกเขาเกิดความหวัง...เส้นทางที่พวกเขารอคอยใกล้เข้ามาถึงแล้ว แต่แล้ว! ก็มีเงาทะมึนมาทาบทับ เงาปีศาจสองตัวโอบล้อมพวกเขาเอาไว้ เจ้าปีศาจแนะนำตัวเองว่ามันคือ 'ความแตกร้าว' และ 'ความเศร้า'...พวกมันต้องการจะจับความรักไป...เด็กน้อยที่ชื่อความประทับใจร้องไห้จ้า มันกลัวเหลือเกิน ยิ่งร้องไห้ ร่างบอบบางนั้นยิ่งจางลงราวกับจะสลายไป...ความผูกพันโผเข้ากอดความประทับใจแน่น... เขาค่อยๆปลอบจนความประทับใจหยุดสะอื้น... ร่างกายของเด็กน้อยนั้นกลับมามีรูปร่างดังเดิม...ในขณะที่ปีศาจทั้งสองตนมีสีหน้าตื่นกลัว...ร่างของมันเองที่กำลังสลายไปช้าๆความรักกับความจริงใจเห็นดังนั้นจึงกอดเด็กน้อยทั้งสองแน่น ร่างทั้งสี่กอดกันกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว ความแตกร้าวและความเศร้ากรีดร้อง......แล้วมันก็สลายไป ทั้งสี่ส่งยิ้มให้กัน...พวกเขาทำสำเร็จแล้ว! ทันใดนั้นเอง... แสงสว่างก็แยงจ้าไปทั่ว... ความรักรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นช้าๆ... ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู... เสียงปริศนาที่มีชื่อว่า 'ความสุข' ดังก้อง... "พวกเจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม? ว่าทำไมข้าถึงให้พวกเจ้ามาเดินทางร่วมกัน......นับตั้งแต่วันนี้ไป...พวกเจ้าจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ข้าจะให้ชื่อของพวกเจ้าว่า 'ความสัมพันธ์' " ...ทั้งสี่ถูกรวมเป็นคนใหม่คนเดียวกัน...ร่างกายที่ดูแข็งแกร่งและมั่นคงกว่าเดิม...และพร้อมเผชิญกับทุกปัญหา...พวกเขาเข้าใจแล้วว่า...เขาเกิดมาทำไม... มีความรัก ความจริงใจ จึงเกิดความประทับใจ แล้วกลายเป็นความผูกพัน บางครั้งอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เกิดความแตกร้าวและความเศร้า อาจจะทำให้ความประทับใจลดน้อยลงแต่ความผูกพันก็ยังเหนี่ยวรั้งทุกอย่างเอาไว้... ...แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะผ่านไปได้ต้องมีพื้นฐานคือความรักและความจริงใจ... นี่แหล่ะค่ะ ความสัมพันธ์ของคนสองคน
คนตาบอด
มีชายหญิงคู่หนึ่งเป็นคู่รักกัน เค้าทั้งสองดูสวีทกันมาก มากจนน่าหมั่นไส้(เป็นบ้าเลยว่ะ) ผู้ชายรักผู้หญิงคนนี้มาก มากเกินจะอธิบายเป็นภาษามนุษย์ได้ รัก รัก รัก รักจนไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจว่า ถ้าวันหนึ่งเค้าทั้งสองคนต้องจากกัน จะเป็นเช่นไร ควรจะทำเช่นไร ต้องทำเช่นไรผู้ชายคนนี้ จะโทรหาผู้หญิงคนที่เค้ารักทุกๆ คืน หรือแทบทุกคืน แต่แล้ววันหนึ่ง สิ่งที่เค้าไม่เคยคาดฝันก็พลันเกิดขึ้น เมื่อเค้าได้โทรไปหาผู้หญิงคนนี้ และทันทีที่ผู้หญิงคนนี้รับโทรศัพท์พูดว่า ฮัลโหลด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนกับว่าโลกนี้มันช่างมืดมัวซะนี่กระไร ผู้ชายคนนี้ก็ถามด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นอะไร ผู้หญิงก็ตอบว่า "ต้อง"(คนรักเก่าที่ต่างจังหวัด คือผู้หญิงคนนี้เป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาเรียนที่กทม.)มีแฟนใหม่แล้ว ไอ้ผู้ชายคนนี้ก็งงสิ ก็กะไอ้แค่แฟนเก่าไปมีแฟนใหม่ มันต้องเศร้าราวกับเจอกูปรีในห้องนอนเชียวเหรอ (ไอ้ผู้ชายคนนี้ก็รู้ว่า นายต้องนี่เป็นใคร และก่อนหน้าที่จะมาเจอปัญหาเรื่องนายต้องนี่ ก็เจอปัญหาเรื่องผู้ชายอีกหลายคน แต่ก็พ้นผ่านไป เพราะเค้ารักผู้หญิงคนนี้มาก ก็เลยทำเป็นไม่จดจำก็เท่านั้น และไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ) หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้บอกว่า แฟนเก่านั้นได้ไปมีแฟนใหม่ไปแล้ว และไอ้ผู้ชายคนนี้หายงงแล้ว ผู้ชายก็ถามไปทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าคำตอบมันน่าจะเป็นเช่นไร แต่ก็ยังดันทุรังถามว่า "แล้วทำไมเธอต้องเศร้าด้วย ในเมื่อยังมีเราทั้งคน" ผู้ชายคนนี้เลยได้คำตอบโดนใจ คนวัยดิจิตอลว่า "กับเธอน่ะเค้ารัก แต่กับต้องเค้ารักมากกว่า" ผู้ชายคนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไง จากนั้นได้ไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็ไปมีผู้ชายคนใหม่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เลิกรากับผู้ชายซึ่งรักเค้ามาก ทั้งคู่จึงได้ห่างกันไป และจบลงในที่สุด
เวลาผ่านไป 2 ปี 2 ปีแห่งความทรมาน 2 ปีแห่งการรอคอยว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะกลับมา แม้ว่าเวลา 2 ปีนี้ไม่อาจจะลบแผลที่ผู้หญิงคนนี้ทำ แต่ความรักทำให้คนตาบอด แม้ว่าความรักจะทำให้คนเราต้องเจ็บ ต้องผิดหวัง แต่คนเราก็ยังอยากที่จะแกว่งเท้าหาเสี้ยน ยังอยากที่จะมีความรัก ก็เหมือนดังผู้ชายคนนี้ เค้ายังพร้อมที่จะรอผู้หญิงคนนี้ ตลอด 2 ปี เค้าไม่เคยมีวันใดที่ไม่คิดถึงผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยแม้สักวัน ตลอด 2 ปี ไม่มีผู้หญิงคนอื่นผ่านเข้ามาในชีวิตเค้าอาจเป็นเพราะ เค้ากลัวผู้หญิง หรือว่าเค้ายังรักยังคิดถึงคนเก่าของเค้าอยู่! ... ไม่มีใครรู้ แม้แต่ตัวของเค้าเอง
คำว่ารักเป็นมากกว่าคำพูดใดๆ
.........เค้าว่าเรื่อง "ความรัก" ไม่มีคำว่าถูกและผิด คุณไม่ผิดที่ไปรักเค้าคนนั้น และเค้าเองก้อคงไม่ผิดที่ไม่ได้รักคุณ ในทางตรงข้าม คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเค้าคนนั้น และเค้าก้อไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกัน .........การห้ามใจไม่ให้รักนั้นยากนัก แต่คงเทียบไม่ได้กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า คุณอาจทำได้เมื่อมีใครอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตคุณ แต่มันคงไม่ง่าย ถ้าคุณต้องหักใจให้ลืมในขณะที่คุณอยู่คนเดียว ..........เค้าว่าการชนะใจตัวเองนั้นอาจดีและมีค่าที่สุด แต่ในเรื่องความรัก การชนะใจคนที่เรารักนั้นอาจย่อมมีค่ากว่า แต่มันอาจมีค่ากว่านั้น ถ้าคุณสามารถชนะใจตัวเองที่จะปฏิเสธกับความรักที่ย้อนมาหาคุณ และมันอาจมีค่าที่สุด ถ้าคุณยอมที่จะ "แพ้" ใจตัวเองเพื่อจะกลับไปหาความรักนั้น ...........ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่อย่าลืมว่าบนโลกไม่ได้มีแค่เค้าทั้งคู่ อย่าโกรธเค้าที่ต้องปฏิเสธรักจากคุณ ด้วยเหตุผลว่าเราเข้ากันไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่าสังคมเราต่างกัน ด้วยเหตุผลว่าเค้ายังรักคุณอยู่ ด้วยเหตุผลว่าเค้ารักคนอื่นที่มีค่าพอกับคุณ ............วิทยาศาสตร์อาจต้องการเหตุผล แต่เรื่องความรักย่อมไม่ต้องการเหตุผลใดใด คนดีอาจรักกับคนเลว จงอย่าโทษเค้าว่าเค้ารักคนผิด จงอย่าโทษเค้าว่าเค้ารักคนที่ไม่เอาไหน และจงอย่าโทษตัวเองว่าเรารักคนที่ไม่ดี เพราะสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้องแล้ว จงเชื่อในสายตาของตัวเอง จงเชื่อประตูหัวใจอันมีค่าที่เลือกจะเปิดรับเค้าคนนั้น ............แม้ใครจะพูดว่าคู่ของเราเป็นคนไม่ดี แต่ในแง่ของความรัก คุณทั้งสองเป็นคนดีของกันและกัน อย่าโกรธเค้าที่บางครั้งเค้ายอมเป็นคนตาบอด อย่าโกรธเค้าที่บางครั้งเค้ายอมเป็นคนหูหนวก บางครั้งการไม่เห็นและไม่ได้ยิน เพื่อรักษาและถนอมความรักเอาไว้ ก็อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด .............นิยามความรักแต่ละคนย่อมต่างกัน ไม่แปลกที่บางคู่อาจทะเลาะกันทั้งวัน ไม่แปลกที่บางคู่อาจหวานให้แก่กันได้ทั้งวัน และไม่แปลกที่บางคู่ต่างเฉยชาต่อกัน และก้อคงไม่แปลกเลยที่บางคู่อาจต่างกันราวฟ้ากับดิน เพราะบางครั้งความรักคือ การเติมเต็ม แต่บางครั้งความรักอาจคือ การเสียสละ และการแบ่งปัน บางคนความรักอาจเป็น การดูแลและปกป้อง อย่าไปคิดว่าทำไมคู่เราถึงไม่เหมือนคู่ของใครเค้า อย่าไปคิดว่าคู่เราแปลกหรือเปล่า อย่าไปสนใจว่าเราควรเปลี่ยนแปลงอะไรมั๊ย ถ้าจะเปลี่ยน ขอให้เพื่อรักมิใช่เพื่อเลิกรัก
ความสุขของการได้รัก
ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ นึงตลอดเวลา เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ และบางครั้ง ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า สิ่งที่เราคิดทั้งหมด มันคือความฝันของเราเองเพียงคนเดียว ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะจมกับความฝัน มากกว่าการได้รับรู้ความจริง การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเค้า ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า... เราอาจเป็นที่ 2 ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4... และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า... ก็ขอให้คิดไว้ว่า ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย แต่โปรดจำไว้เถอะว่า หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า...ชั้นเหนื่อยเหลือเกินแล้ว โปรดห้ามใจเถอะ ก่อนที่ชั้นจะอ่อนล้าไปกว่านี้... ก็จงชอบต่อไปเถอะ การรักใครซักคน ไม่ต้องการความพยายาม "การตัดใจ"ต่างหาก ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า ความสุขยามที่คุณได้สบตาเค้า กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า อันไหนมันหนักหนากว่ากัน อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเค้าสายเกินไป... อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้... อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง ที่อย่างน้อย ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป แต่ก็ยังได้พบ... ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป... ยิ้มให้กับโชคชะตา ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้มของเค้าไว้คนเดียว คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง... คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...และร้องไห้ได้มากมาย... คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...ให้กลายเป็นวันที่สดใส เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ? แค่การได้เห็นคนที่เรารัก ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคนที่เค้ารักมากที่สุด ...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก...อย่างจริงใจ
เธอเลือกที่จะขาดสิ่งไหน
ไม่มีอากาศ ...ก็ไม่มีลมหายใจ ไม่มีความรัก
ยังหายใจได้..เหมือนทุกวัน
แต่ความรักจะได้มาต้องบากบั่น
อากาศได้มาง่ายๆ และมีอยู่มากมายร้อยพัน
อากาศแทบไม่มีน้ำหนัก
ส่วนความรัก ใครก็เห็นว่ายิ่งใหญ่ อากาศ
ไม่เคยสร้างความเสียใจ
หากความรัก ทำให้ต้องร้องไห้
และความ รัก ทำให้ลมหายใจทุกอณูมีคุณค่า
อากาศมองเห็นได้ยากด้วยสายตา
มีอากาศโลกก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่
มีความรักโลกจะกลายเป็นสีชมพูหวานไหว
สำหรับอากาศ เข้า-ออกตามลมหายใจ
แต่ความรักหากมีไว้..ก็ไม่อยากสูญเสียไปสักนิดเดียว
ดูแลความรัก ยิ่งยุ่งยาก หากไม่ชอบแลเหลียว
อากาศมากเท่าไหร่ ...ก็ไม่กลมเกลียว
ส่วนประกอบของอากาศสามารถบรรยาย
แต่ความรักไม่อาจอธิบายด้วยคำสั้นๆ
อากาศ อาจดี-แย่ แต่ละวัน
ส่วนความรักนั้น จะยังคงอบอุ่น กรุ่นหัวใจ
แม้อากาศจำเป็นสักเพียงใด
ถึงเธอไม่ว่างมาหา ก็อย่าว่าถ้าจะส่งใจไปให้ ถ้าบอกรักอย่าถามนะว่าทำไม แค่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ก็พอ
...................................................
ขอเป็นใครก็ได้ แค่ได้ห่วงใยเธอบ้าง ขอเป็นจุดเล็กๆบนเส้นทาง แม้จะจางจนคุณมองข้ามก็ไม่เป็นไร
...................................................
สำหรับเธอ ฉันอาจจะเป็นเพื่อนธรรมดา แต่สำหรับฉันรู้ไหมว่า เธอเป็นยิ่งกว่าคนของหัวใจ
...................................................
รู้สึกแปลกๆเมื่อแรกพบ พอได้สบตากันก็หวั่นไหว มันหนาวๆสั้นๆไปทั้งใจ เกิดขึ้นทันใดที่พบเธอ
...................................................
ขอแค่อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเข้าไปในใจก็ได้ จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกไปวุ่นวาย รบกวนคนที่มีความหมายในใจคุณ
...................................................
แอบชื่นชมหวังลมๆว่าเธอรัก แอบรู้จักอยากทายทักไม่ยักกล้า แอบๆมองอยากจะจองไว้ห่วงหา แอบมองตาอยากให้รู้ว่าสนใจ
...................................................
หวังว่าจะเป็นจริง กับบางสิ่งที่วาดไว้ หวังว่าอะไรในใจ ที่ซ่อนไว้จะตรงกัน
...................................................
ไม่ขออะไรเลย จะอยู่อย่างเงียบเฉยตรงนี้ เฝ้ามองด้วยความหวังดี จากวันนี้จวบนานเท่านาน
...................................................
รักเธอข้างเดียวคงไม่ผิด วางใจไม่คิดแก้ไข เพราะมีความจริงใจให้เธอไป วางใจว่ามันยิ่งใหญ่เกินใครเทียม
...................................................
...................................................
ขอเป็นใครก็ได้ แค่ได้ห่วงใยเธอบ้าง ขอเป็นจุดเล็กๆบนเส้นทาง แม้จะจางจนคุณมองข้ามก็ไม่เป็นไร
...................................................
สำหรับเธอ ฉันอาจจะเป็นเพื่อนธรรมดา แต่สำหรับฉันรู้ไหมว่า เธอเป็นยิ่งกว่าคนของหัวใจ
...................................................
รู้สึกแปลกๆเมื่อแรกพบ พอได้สบตากันก็หวั่นไหว มันหนาวๆสั้นๆไปทั้งใจ เกิดขึ้นทันใดที่พบเธอ
...................................................
ขอแค่อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเข้าไปในใจก็ได้ จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกไปวุ่นวาย รบกวนคนที่มีความหมายในใจคุณ
...................................................
แอบชื่นชมหวังลมๆว่าเธอรัก แอบรู้จักอยากทายทักไม่ยักกล้า แอบๆมองอยากจะจองไว้ห่วงหา แอบมองตาอยากให้รู้ว่าสนใจ
...................................................
หวังว่าจะเป็นจริง กับบางสิ่งที่วาดไว้ หวังว่าอะไรในใจ ที่ซ่อนไว้จะตรงกัน
...................................................
ไม่ขออะไรเลย จะอยู่อย่างเงียบเฉยตรงนี้ เฝ้ามองด้วยความหวังดี จากวันนี้จวบนานเท่านาน
...................................................
รักเธอข้างเดียวคงไม่ผิด วางใจไม่คิดแก้ไข เพราะมีความจริงใจให้เธอไป วางใจว่ามันยิ่งใหญ่เกินใครเทียม
...................................................
นิทาน พระคุณแม่ทดแทนไม่หมด
กาลครั้งหนึ่งไม่นานเท่าไหร่ ณ ต้นไม้ใหญ่ท้ายหมู่บ้าน มีเด็กชายคนหนึ่งเดินหงุดหงิดอยู่คนเดียว ปากก็บ่นไปว่า "ใช้อยู่ได้ วันๆใช้ทำโน่นทำนี่ เดี๋ยวให้ถูบ้าน เดี๋ยวให้ล้างจาน โอ้ย..เบื่อ ๆ ๆ "
เดือดร้อนถึงเทพผู้ให้กำเนิด ซึ่งเป็นผู้จัดให้เด็กๆมาเกิดในหมู่บ้านนี้ จึงแปลงกายเป็นผู้เฒ่าและปรากฎตัวพร้อมกับหมาน้อยตัวหนึ่ง
ผู้เฒ่าถามเด็กน้อยว่า " เด็กน้อยเจ้าบ่นอะไรอยู่เหรอ บอกเรามาเถอะเผื่อเราจะช่วยเจ้าได้ "
เด็กน้อยตอบ " ก็แม่ของฉันนะสิ วันๆชอบใช้ให้ทำงานบ้าน ไม่เคยได้พัก ได้เล่นกับเพื่อนบ้างเลย "
ผู้เฒ่าหยิบก้อนอิฐขึ้นมาสองก้อน " เอ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเล่นกับเราสิ เรามาแข่งกันถืออิฐนี้ไว้คนละก้อน ใครถือได้นานกว่ากันคนนั้นชนะ "
เด็กชายเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆจึงตกลงเล่นด้วย เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เด็กน้อยเริ่มเมื่อยล้า และเบื่อจึงบ่น และขอยอมแพ้
ผู้เฒ่าก็พูดต่อว่า " งั้นเจ้าเล่นกับลูกสุนัขตัวนี้ไหมหละ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องป้อนนมให้ลูกสุนัขตัวนี้ก่อนนะ "
เด็กน้อยตอบว่าก็ได้ แล้วเริ่มป้อนนมให้ลูกสุนัข ไม่นานลูกสุนัขก็ซนและไม่ยอมอยู่นิ่งเด็กน้อยก็เบื่อ แล้วก็บ่นพาลไม่ป้อนนมต่อ..
ผู้เฒ่าจึงสอนว่า "แม้แต่ก้อนอิฐ 1 ก้อนเจ้าก็ยกได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เทียบไม่ได้กับแม่เจ้าซึ่งต้องอุ้มท้องเจ้าตลอดทั้งวันทั้งคืนนานถึง 9 เดือนก่อนจะคลอดเป็นเจ้าออกมา"
" แล้วยังต้องอดทนเลี้ยงเจ้าตั้งแต่เล็กจนโตขนาดนี้ ขณะที่เจ้าป้อนนมลูกหมาแค่มื้อเดียวก็เบื่อแล้ว "
" การเป็นแม่นั้นลำบากนัก ตั้งแต่อุ้มท้อง และเลี้ยงลูกจนกว่าจะโตการทดแทนบุญคุณด้วยการช่วยการงานเพียงเล็กน้อย ย่อมเทียบไม่ได้กับพระคุณแม่ที่เลี้ยงเรามา "
เด็กน้อยได้ฟังแล้วจึงคิดได้ รีบวิ่งกลับไปหาแม่โดยไม่คิดบ่นอีกเลย..
คติ:พระคุณแม่นั้นมากเหลือคณา จะตอนแทนเท่าไรก็ไม่หมด
กาลครั้งหนึ่งไม่นานเท่าไหร่ ณ ต้นไม้ใหญ่ท้ายหมู่บ้าน มีเด็กชายคนหนึ่งเดินหงุดหงิดอยู่คนเดียว ปากก็บ่นไปว่า "ใช้อยู่ได้ วันๆใช้ทำโน่นทำนี่ เดี๋ยวให้ถูบ้าน เดี๋ยวให้ล้างจาน โอ้ย..เบื่อ ๆ ๆ "
เดือดร้อนถึงเทพผู้ให้กำเนิด ซึ่งเป็นผู้จัดให้เด็กๆมาเกิดในหมู่บ้านนี้ จึงแปลงกายเป็นผู้เฒ่าและปรากฎตัวพร้อมกับหมาน้อยตัวหนึ่ง
ผู้เฒ่าถามเด็กน้อยว่า " เด็กน้อยเจ้าบ่นอะไรอยู่เหรอ บอกเรามาเถอะเผื่อเราจะช่วยเจ้าได้ "
เด็กน้อยตอบ " ก็แม่ของฉันนะสิ วันๆชอบใช้ให้ทำงานบ้าน ไม่เคยได้พัก ได้เล่นกับเพื่อนบ้างเลย "
ผู้เฒ่าหยิบก้อนอิฐขึ้นมาสองก้อน " เอ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเล่นกับเราสิ เรามาแข่งกันถืออิฐนี้ไว้คนละก้อน ใครถือได้นานกว่ากันคนนั้นชนะ "
เด็กชายเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆจึงตกลงเล่นด้วย เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เด็กน้อยเริ่มเมื่อยล้า และเบื่อจึงบ่น และขอยอมแพ้
ผู้เฒ่าก็พูดต่อว่า " งั้นเจ้าเล่นกับลูกสุนัขตัวนี้ไหมหละ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องป้อนนมให้ลูกสุนัขตัวนี้ก่อนนะ "
เด็กน้อยตอบว่าก็ได้ แล้วเริ่มป้อนนมให้ลูกสุนัข ไม่นานลูกสุนัขก็ซนและไม่ยอมอยู่นิ่งเด็กน้อยก็เบื่อ แล้วก็บ่นพาลไม่ป้อนนมต่อ..
ผู้เฒ่าจึงสอนว่า "แม้แต่ก้อนอิฐ 1 ก้อนเจ้าก็ยกได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เทียบไม่ได้กับแม่เจ้าซึ่งต้องอุ้มท้องเจ้าตลอดทั้งวันทั้งคืนนานถึง 9 เดือนก่อนจะคลอดเป็นเจ้าออกมา"
" แล้วยังต้องอดทนเลี้ยงเจ้าตั้งแต่เล็กจนโตขนาดนี้ ขณะที่เจ้าป้อนนมลูกหมาแค่มื้อเดียวก็เบื่อแล้ว "
" การเป็นแม่นั้นลำบากนัก ตั้งแต่อุ้มท้อง และเลี้ยงลูกจนกว่าจะโตการทดแทนบุญคุณด้วยการช่วยการงานเพียงเล็กน้อย ย่อมเทียบไม่ได้กับพระคุณแม่ที่เลี้ยงเรามา "
เด็กน้อยได้ฟังแล้วจึงคิดได้ รีบวิ่งกลับไปหาแม่โดยไม่คิดบ่นอีกเลย..
คติ:พระคุณแม่นั้นมากเหลือคณา จะตอนแทนเท่าไรก็ไม่หมด
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552
"ทายนิสัย จากเบอร์โทรศัพท์"
"ทายนิสัย จากเบอร์โทรศัพท์"
สิ่งใกล้ตัวที่เห็นอยู่ประจำ หรือสิ่งของที่เราต้องใช้อยู่เป็นกิจวัตร บางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็มีความหมายและมีสิ่งดีๆ แฝงอยู่ในตัว โดยที่เราเองก็อาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกัน อย่างเเรื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นที่รู้กันว่า คนส่วนใหญ่จะใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อโทรเรื่องกิจส่วนตัว หรือไม่ก็กิจธุระสำคัญเกี่ยวกับการงาน แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้บ้างว่า เบอร์มือถือที่กดอยู่ทุกวันนั้น จะบ่งบอกนิสัยได้วิธีคำนวณ
1.นำเลขเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณ 7 ตัว บวกจนเหลือเลขสอง
ตัว อย่าง เบอร์โทรศัพท์ 01-3456789 ก็จะเป็น 3+4+5+6+7+8+9 = 42
2.จากนั้นก็บวกรวมกันอีกครั้ง เป็น 4+2 = 6 เมื่อได้เลขตัวเดียวแล้ว ก็ให้นำไปเทียบกับคำทายด้านล่างนี้กันได้เลยเฉลย
1 - เป็นคนมีอำนาจ ชอบเป็นผู้นำ ใจร้อน ขี้บ่น แต่โกรธง่ายหายเร็ว บางครั้งก็ใจง่าย โลเลเป็นตัวของตัวเอง
2 - เป็นคนอ่อนไหวง่าย เป็นคนมีเสน่ห์ ชอบทำอะไรคนเดียวเงียบๆ บุคลิกภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนไหว
3 - ออกไปทางแนวซ่าๆ ชอบพูดเสียงดัง แต่พูดไม่ค่อยเก่ง ทำไรต้องทำให้สำเร็จ
4 - เป็นนักพูดตัวยง เป็นคนสนุกสนาน เจ้าชู้ มีเสน่ห์
5 - เป็นคนมีเหตุผลไม่วู่วาม ขี้สงสาร ฉลาด เป็นที่ปรึกษาที่ดี ที่สำคัญไม่ชอบโกหกใคร 6 - เป็นคนร่ำรวยความรักที่พร้อมจะให้กับผู้อื่น หมดเงินไปกับการแต่งตัว และความบันเทิงทั้งหลาย
7 - ขี้ตกใจ ขี้กังวลเวลาโกรธมากๆมักจะขาดสติ คำพูดมักจะก่อให้เกิดศัตรูได้
8 - เป็นคนที่หลงคนง่าย เชื่อคนง่ายนิสัยจะออกก๋ากั่นนักเลงนิดๆ
9 - เป็นคนประหลาดชอบทำตัวเหมือนคนโบราณ หรือ เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ช่างคิด
"ไอซ์ว่าทุกคนควรจะลองทำดูนะม่ายแน่อาจจะจริงก็ได้"
วิธีเลือกคู่ใหม่
วิธีเลือกคู่ใหม่
1.เลือกคนที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
มีบางคนที่สามารถดึงสิ่งดีๆ ในตัวเราออกมาได้อย่างเต็มที่ นั่นคือคนที่ยินดีรับฟังปัญหาเวลาที่เราทุกข์ ยินดีเมื่อเรามีความสุข สนับสนุนและให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของเราในทุกๆ ทาง คนที่คุณพูดคุยด้วยได้ทุกเรื่องและสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายที่เอาแต่ติ มองโลกในแง่ร้าย ไม่เคยเข้าข้างและเป็นฝ่ายเดียวกับคุณ คนเหล่านี้มีแต่จะคอยดึงเอาพลังดีงานของชีวิตออกไปจากตัวคุณ
2.อย่าเลือก "วัตถุ" มากกว่า "จิตใจ"
ก่อนอื่นถ้าคุณมีโอกาสรู้จักหนุ่มน่ารักสักคน ขอให้ทำความรู้จักและมองลึกเข้าไปในหัวใจเขา อย่ายอมให้หน้าตาหล่อเหลาและรูปร่างแมนกำยำ รถเบนซ์สปอร์ตที่เขาขับ หรือเงินเดือนเหยียบแสนที่เขาได้รับมาบดบังตัวตนจริงๆ ของเขา ลองนั่งคิดแล้วเขียนออกมาเป็นข้อๆเลยว่า อะไรที่จำเป็นจริงๆ ที่คู่รักของคุณควรมี เรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย เช่น ไม่เจ้าชู้ ใจเย็น เป็นที่พึ่งและเป็นที่ปรึกษาของเราได้ เป็นคนมีศีลธรรม ซื่อสัตย์ รักครอบครัว มีอารมณ์ขัน ฯลฯ แล้วลองพิจารณาหนุ่มคนใหม่ที่กำลังดูใจกันอยู่นั้น ว่ามีคุณสมบัติตามที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า หลังจากคบกันไปสักพักแล้วเขาเป็นคนที่คุณเปิดใจคุยได้ในเรื่องที่คุณไม่กล้าคุยกับใครมาก่อนหรือเปล่า อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คุณต้องการทุกข้อหรอก เพราะฉะนั้นดูเขาในหัวข้อหลักๆ ที่คุณคิดว่าจำเป็นกับชีวิตคู่ก็น่าจะพอ
3.คุณเป็นคนอย่างไร จงเลือกคนที่เข้ากับคุณได้
ผู้ชายหลายคนเลือกผู้หญิงที่เข้ากับนิสัยของเขาได้ โดยไม่ยึดติดว่าจะคบกันมานานแค่ไหน แต่ผู้หญิงกลับมีนิสัยตรงกันข้าม เมื่อเธอคบกับใครสักคนก็ยังติดนิสัยเดิมๆ ว่าคนคนนี้เป็นคนที่เธอจะแต่งงานด้วย โดยที่ไม่ได้ดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบเลย ผู้หญิงที่รู้จักตัวเองและรู้จักเลือกคนที่เข้ากับตัวเองได้คือผู้หญิงฉลาดเลือก
4.รักแบบเพื่อน ปลอดภัยและมั่นคง
ภาษากรีกโบราณได้แบ่งความหมายได้ชัดเจนระหว่างคำว่า eros (รักใคร่) กับ agape (ความรักแบบเพื่อน) การตกหลุมรักใครสักคนเพราะเขามีอะไรดึงดูดใจและต้องการอยู่กับเขา นั่นเป็นสิ่งที่ชักนำเราให้เข้าไปหาใครคนหนึ่ง แต่การจะอยู่กับใครสักคนให้ยืนยาวนานนั้น ต้องการความสัมพันธ์แบบเพื่อน ดังนั้นคุณลักษณะหลายๆประการที่คุณคาดหวังว่าเพื่อนที่ดีของคุณต้องมีก็คือคุณลักษณะที่ดีของคู่ชีวิตนั่นเอง
5.ชัดเจนกับตัวเองและเขา ว่าคุณคาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ครั้งนี้
คุณคาดหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยาวนาน หรือว่าอยากเป็นแค่เพื่อนกับเขาก็ขอให้บอกกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหนีเตลิดไปเสียก่อนเพราะกลัวการผูกมัก แต่ถ้าเขาจะไปก็ปล่อยเขาไป เพราะนั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนที่คุณมองหา
6.อดีตและปัจจุบันเป็นตัวบอกอนาคต
คอยสังเกตคนที่จะมาเป็นว่าที่แฟนคนใหม่ของคุณว่า เขาปฎิบัติอย่างไรกับอดีตแฟน ครอบครัว หรือเพื่อน เช่น ถ้าเคยได้ยินเขาคุยกับผู้หญิงที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงไม่สุภาพ หรือพูดจาไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนนั้น ก็รำลึกไว้เลยว่านั่นคือคุณในอนาคต และคุณจะไปเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาไม่ได้หรอก นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือตอนที่เขาอยู่กับครอบครัว คุณลองไปเที่ยวบ้านเขาแล้วลอบสังเกตดูสิว่าเขาปฎิบัติอย่างไรกับครอบครัว เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจ บางครั้งถ้าคุณไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของเขา เพื่อนบางคนอาจจะหลุดปากพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่คุณไม่เคยรู้ก็ได้
7.วิธีตัดสินปัญหาของเขา
หนึ่งในคำทำนายอนาคตว่าที่แฟนที่ดีข้อหนึ่งคือ ดูว่าผู้ชายคนนี้แก้ปัญหาอย่างไรเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ถ้าเขาใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอันตรายถ้าเลือกจะครองคู่กับเขา ข้อแนะนำคือ ถ้าเราสังเกตเห็นว่าเขาชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาและทำให้เรากลัว ก็ควรรีบถอยห่างจากผู้ชายประเภทนี้ทันที หรือสอบถามเพื่อนและคนใกล้ตัวเขาจะได้ข้อมูลมากกว่าที่เรามองเอง
8.สำหรับผู้หญิงที่มีลูกติดจากความรักครั้งเก่า
อันดับแรกที่คุณต้องสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือความรู้สึกของลูกคุณ จับเข่าคุยกับลูกอย่างตรงไปตรงมา แลกเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกซึ่งกันและกัน ฟังลูกให้มาก และอย่าเพิ่งรีบร้อนออกรับแทนผู้ชายคนใหม่
ไอซ์คิดว่าเมื่อด้ายแนวทางแล้วก็นำไปใช้กันนะคะ
(ผู้ชายดีๆมีมากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะเจอไหม.....ว่าไหมคะทุกคน)
1.เลือกคนที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
มีบางคนที่สามารถดึงสิ่งดีๆ ในตัวเราออกมาได้อย่างเต็มที่ นั่นคือคนที่ยินดีรับฟังปัญหาเวลาที่เราทุกข์ ยินดีเมื่อเรามีความสุข สนับสนุนและให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของเราในทุกๆ ทาง คนที่คุณพูดคุยด้วยได้ทุกเรื่องและสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายที่เอาแต่ติ มองโลกในแง่ร้าย ไม่เคยเข้าข้างและเป็นฝ่ายเดียวกับคุณ คนเหล่านี้มีแต่จะคอยดึงเอาพลังดีงานของชีวิตออกไปจากตัวคุณ
2.อย่าเลือก "วัตถุ" มากกว่า "จิตใจ"
ก่อนอื่นถ้าคุณมีโอกาสรู้จักหนุ่มน่ารักสักคน ขอให้ทำความรู้จักและมองลึกเข้าไปในหัวใจเขา อย่ายอมให้หน้าตาหล่อเหลาและรูปร่างแมนกำยำ รถเบนซ์สปอร์ตที่เขาขับ หรือเงินเดือนเหยียบแสนที่เขาได้รับมาบดบังตัวตนจริงๆ ของเขา ลองนั่งคิดแล้วเขียนออกมาเป็นข้อๆเลยว่า อะไรที่จำเป็นจริงๆ ที่คู่รักของคุณควรมี เรียงตามลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย เช่น ไม่เจ้าชู้ ใจเย็น เป็นที่พึ่งและเป็นที่ปรึกษาของเราได้ เป็นคนมีศีลธรรม ซื่อสัตย์ รักครอบครัว มีอารมณ์ขัน ฯลฯ แล้วลองพิจารณาหนุ่มคนใหม่ที่กำลังดูใจกันอยู่นั้น ว่ามีคุณสมบัติตามที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า หลังจากคบกันไปสักพักแล้วเขาเป็นคนที่คุณเปิดใจคุยได้ในเรื่องที่คุณไม่กล้าคุยกับใครมาก่อนหรือเปล่า อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่คุณต้องการทุกข้อหรอก เพราะฉะนั้นดูเขาในหัวข้อหลักๆ ที่คุณคิดว่าจำเป็นกับชีวิตคู่ก็น่าจะพอ
3.คุณเป็นคนอย่างไร จงเลือกคนที่เข้ากับคุณได้
ผู้ชายหลายคนเลือกผู้หญิงที่เข้ากับนิสัยของเขาได้ โดยไม่ยึดติดว่าจะคบกันมานานแค่ไหน แต่ผู้หญิงกลับมีนิสัยตรงกันข้าม เมื่อเธอคบกับใครสักคนก็ยังติดนิสัยเดิมๆ ว่าคนคนนี้เป็นคนที่เธอจะแต่งงานด้วย โดยที่ไม่ได้ดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบเลย ผู้หญิงที่รู้จักตัวเองและรู้จักเลือกคนที่เข้ากับตัวเองได้คือผู้หญิงฉลาดเลือก
4.รักแบบเพื่อน ปลอดภัยและมั่นคง
ภาษากรีกโบราณได้แบ่งความหมายได้ชัดเจนระหว่างคำว่า eros (รักใคร่) กับ agape (ความรักแบบเพื่อน) การตกหลุมรักใครสักคนเพราะเขามีอะไรดึงดูดใจและต้องการอยู่กับเขา นั่นเป็นสิ่งที่ชักนำเราให้เข้าไปหาใครคนหนึ่ง แต่การจะอยู่กับใครสักคนให้ยืนยาวนานนั้น ต้องการความสัมพันธ์แบบเพื่อน ดังนั้นคุณลักษณะหลายๆประการที่คุณคาดหวังว่าเพื่อนที่ดีของคุณต้องมีก็คือคุณลักษณะที่ดีของคู่ชีวิตนั่นเอง
5.ชัดเจนกับตัวเองและเขา ว่าคุณคาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ครั้งนี้
คุณคาดหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยาวนาน หรือว่าอยากเป็นแค่เพื่อนกับเขาก็ขอให้บอกกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหนีเตลิดไปเสียก่อนเพราะกลัวการผูกมัก แต่ถ้าเขาจะไปก็ปล่อยเขาไป เพราะนั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนที่คุณมองหา
6.อดีตและปัจจุบันเป็นตัวบอกอนาคต
คอยสังเกตคนที่จะมาเป็นว่าที่แฟนคนใหม่ของคุณว่า เขาปฎิบัติอย่างไรกับอดีตแฟน ครอบครัว หรือเพื่อน เช่น ถ้าเคยได้ยินเขาคุยกับผู้หญิงที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงไม่สุภาพ หรือพูดจาไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนนั้น ก็รำลึกไว้เลยว่านั่นคือคุณในอนาคต และคุณจะไปเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาไม่ได้หรอก นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือตอนที่เขาอยู่กับครอบครัว คุณลองไปเที่ยวบ้านเขาแล้วลอบสังเกตดูสิว่าเขาปฎิบัติอย่างไรกับครอบครัว เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจ บางครั้งถ้าคุณไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของเขา เพื่อนบางคนอาจจะหลุดปากพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่คุณไม่เคยรู้ก็ได้
7.วิธีตัดสินปัญหาของเขา
หนึ่งในคำทำนายอนาคตว่าที่แฟนที่ดีข้อหนึ่งคือ ดูว่าผู้ชายคนนี้แก้ปัญหาอย่างไรเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ถ้าเขาใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอันตรายถ้าเลือกจะครองคู่กับเขา ข้อแนะนำคือ ถ้าเราสังเกตเห็นว่าเขาชอบใช้กำลังตัดสินปัญหาและทำให้เรากลัว ก็ควรรีบถอยห่างจากผู้ชายประเภทนี้ทันที หรือสอบถามเพื่อนและคนใกล้ตัวเขาจะได้ข้อมูลมากกว่าที่เรามองเอง
8.สำหรับผู้หญิงที่มีลูกติดจากความรักครั้งเก่า
อันดับแรกที่คุณต้องสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือความรู้สึกของลูกคุณ จับเข่าคุยกับลูกอย่างตรงไปตรงมา แลกเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกซึ่งกันและกัน ฟังลูกให้มาก และอย่าเพิ่งรีบร้อนออกรับแทนผู้ชายคนใหม่
ไอซ์คิดว่าเมื่อด้ายแนวทางแล้วก็นำไปใช้กันนะคะ
(ผู้ชายดีๆมีมากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะเจอไหม.....ว่าไหมคะทุกคน)
"8 วิธีเลือกแฟนใหม่ ให้ดีกว่าเก่า"
"8 วิธีเลือกแฟนใหม่ ให้ดีกว่าเก่า"
อยากรู้ไหมว่าทำไมผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงมักเลือกคู่ผิดๆ อยู่ร่ำไป ก่อนอื่นมาลองสำรวจตัวเองสักนิดว่าทำไมความสัมพันธ์ครั้งก่อนจึงจบลงไปอย่างง่ายด่าย คุณมีความคิดตรงกับข้อไหนข้างล่างนี้หรือไม่
คุณมักจะคิดอยู่เสมอว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
และคุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของการครองคู่ เพราะการที่จะอยู่ร่วมกับใครสักคน การให้อย่างเดียวไม่ช่วยให้หัวใจของคุณอิ่มสุขได้ คู่รักควรมีการให้และการรับ อย่าได้คิดว่ายิ่งให้เขามากเท่าไหร่แล้วเขาจะยิ่งมองเห็นคุณค่า เพราะคุณค่าของตัวคุณไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาด้วยวิธีนี้
คุณคิดว่าควรจะอยู่กับคนนี้
เนื่องจากมีสาเหตุให้รีบเลือก เช่น อายุเยอะแล้วไม่ควรเลือกมาก เพราะไม่อย่างนั้นจะพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายที่กำลังจะผ่านไป เหตุผลนี้จะยิ่งคอยบั่นทอนคุณค่าในตัวคุณลงไปเรื่อยๆ ทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ว่ากับเขาคู่ควรกับคุณเพราะ... และถ้าคำนวณดูแล้วเห็นว่าเขาไม่คู่ควรกับคุณ การเป็นเพื่อนกันก็น่าจะเหมาะกว่า รออีกสักนิดให้คนที่คลิกกับคุณจริงๆ เข้ามาในชีวิตดีไหม
หากคบกับเขาแล้วคุณรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ
ถ้าคุณทำให้เขาเสียใจหรือโกรธ เช่น รู้ทั้งรู้ว่าเวลาออกไปกินข้าวด้วยกันควรช่วยกันออกเงิน แต่เขากลับให้คุณเป็นฝ่ายออกเงินเลี้ยงเขาหลายๆ ครั้ง โดยอ้างว่าไม่ค่อยมีเงิน (แต่เขากลับมีเงินซื้อมือถือใหม่) แต่คุณก็ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจ หรือกลัวว่าเขาจะไม่รัก แค่นี้ก็พอจะมองเห็นเงารางๆ ของความทุกข์แล้วล่ะ ถ้าคุณตัดสินใจอยู่กับผู้ชายคนนี้
คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนสวย
และคงไม่มีผู้ชายคนไหนย่างกรายเข้ามาในชีวิตคุณอีกแล้วเป็นแน่ แต่คนนี้ให้โอกาสกับคุณ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้หลุดลอยจงรีบคว้ามันไว้ ความคิดแบบนี้ผิดมหันต์ เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง นอกจากคุณไม่เห็นคุณค่าของตัวเองแล้ว คุณยังรีบร้อนไปคว้าเอาใครก็ไม่รู้ที่ยังไม่ได้รู้จักมักจี่กันเลยเข้ามาในชีวิต ระวังจะต้องรีบร้อนผลักไสเขาออกไปจากชีวิตก็แล้วกัน
ตัดสินใจในระยะเริ่มต้นความสัมพันธ์
ระยะแรกที่เพิ่งคบกันเป็นช่วงเวลาแสนหวานของคนสองคน ต่างก็อยากแสดงสิ่งดีๆ ออกมาให้อีกฝ่ายพึงพอใจ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งใช้ช่วงเวลานี้รีบร้อนตัดสินใจ เนื่องจากความหวานของความรักมักมาบดบังความเป็นจริง จนทำให้คุณมองข้ามอะไรหลายๆ อย่าง
"ไอซ์คิดว่าทุกคนควรจะดูนะว่าถ้าแฟนเรามันไม่ดี ก็เขี่ยมันทิ้งเถอะ อย่าปล่อยให้มันมาเหยียบใจเราเลยนะ
อยากรู้ไหมว่าทำไมผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงมักเลือกคู่ผิดๆ อยู่ร่ำไป ก่อนอื่นมาลองสำรวจตัวเองสักนิดว่าทำไมความสัมพันธ์ครั้งก่อนจึงจบลงไปอย่างง่ายด่าย คุณมีความคิดตรงกับข้อไหนข้างล่างนี้หรือไม่
คุณมักจะคิดอยู่เสมอว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ
และคุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของการครองคู่ เพราะการที่จะอยู่ร่วมกับใครสักคน การให้อย่างเดียวไม่ช่วยให้หัวใจของคุณอิ่มสุขได้ คู่รักควรมีการให้และการรับ อย่าได้คิดว่ายิ่งให้เขามากเท่าไหร่แล้วเขาจะยิ่งมองเห็นคุณค่า เพราะคุณค่าของตัวคุณไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาด้วยวิธีนี้
คุณคิดว่าควรจะอยู่กับคนนี้
เนื่องจากมีสาเหตุให้รีบเลือก เช่น อายุเยอะแล้วไม่ควรเลือกมาก เพราะไม่อย่างนั้นจะพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายที่กำลังจะผ่านไป เหตุผลนี้จะยิ่งคอยบั่นทอนคุณค่าในตัวคุณลงไปเรื่อยๆ ทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ว่ากับเขาคู่ควรกับคุณเพราะ... และถ้าคำนวณดูแล้วเห็นว่าเขาไม่คู่ควรกับคุณ การเป็นเพื่อนกันก็น่าจะเหมาะกว่า รออีกสักนิดให้คนที่คลิกกับคุณจริงๆ เข้ามาในชีวิตดีไหม
หากคบกับเขาแล้วคุณรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ
ถ้าคุณทำให้เขาเสียใจหรือโกรธ เช่น รู้ทั้งรู้ว่าเวลาออกไปกินข้าวด้วยกันควรช่วยกันออกเงิน แต่เขากลับให้คุณเป็นฝ่ายออกเงินเลี้ยงเขาหลายๆ ครั้ง โดยอ้างว่าไม่ค่อยมีเงิน (แต่เขากลับมีเงินซื้อมือถือใหม่) แต่คุณก็ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจ หรือกลัวว่าเขาจะไม่รัก แค่นี้ก็พอจะมองเห็นเงารางๆ ของความทุกข์แล้วล่ะ ถ้าคุณตัดสินใจอยู่กับผู้ชายคนนี้
คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนสวย
และคงไม่มีผู้ชายคนไหนย่างกรายเข้ามาในชีวิตคุณอีกแล้วเป็นแน่ แต่คนนี้ให้โอกาสกับคุณ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้หลุดลอยจงรีบคว้ามันไว้ ความคิดแบบนี้ผิดมหันต์ เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง นอกจากคุณไม่เห็นคุณค่าของตัวเองแล้ว คุณยังรีบร้อนไปคว้าเอาใครก็ไม่รู้ที่ยังไม่ได้รู้จักมักจี่กันเลยเข้ามาในชีวิต ระวังจะต้องรีบร้อนผลักไสเขาออกไปจากชีวิตก็แล้วกัน
ตัดสินใจในระยะเริ่มต้นความสัมพันธ์
ระยะแรกที่เพิ่งคบกันเป็นช่วงเวลาแสนหวานของคนสองคน ต่างก็อยากแสดงสิ่งดีๆ ออกมาให้อีกฝ่ายพึงพอใจ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งใช้ช่วงเวลานี้รีบร้อนตัดสินใจ เนื่องจากความหวานของความรักมักมาบดบังความเป็นจริง จนทำให้คุณมองข้ามอะไรหลายๆ อย่าง
"ไอซ์คิดว่าทุกคนควรจะดูนะว่าถ้าแฟนเรามันไม่ดี ก็เขี่ยมันทิ้งเถอะ อย่าปล่อยให้มันมาเหยียบใจเราเลยนะ
(•-((-- "ทำอย่างไรให้ "ผู้ชาย" ยอมเปิดใจ" -- ))-•)
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยเดียวที่ทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันยืนยาวเกิน 4 ปีคือ การแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน ยิ่งแบ่งปันความรู้สึกให้กันและกันมากเท่าไร ก็ยิ่งครองรักกันเนิ่นนานเกิน 4 ปีมากเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีผลการสำรวจระบุว่า เหตุผลใหญ่ที่ทำให้ชีวิตแต่งงานล้มเหลวก็คือ การที่สามีไร้ความสามารถในการแสดงความรู้สึก
ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก และยิ่งให้พูดจาอธิบายถึงความในใจละก็...ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้ความสัมพันธ์อยู่ยืนยาวต่อไปผู้หญิงจึงควรกระตุ้นให้ผู้ชายยอมเปิดใจด้วยการ
ให้เขารู้ว่าเราให้ความสำคัญกับการพูดคุยกัน
บอกเขาไปตรงๆเลยว่า เรารู้ว่าเขาอึดอัดที่จะพูดถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ แต่ถ้าลองพยายามดูมันก็จะมีความหมายกับเรามาก แล้วอธิบายเหตุผลด้วย หรือไม่ก็หาหนังสือที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์มาให้เขาอ่าน เน้นเรื่องการสื่อสารกันระหว่างคนรัก
ให้รางวัลถึงแม้เขายอมเปิดปากแค่นิดหน่อย
ถ้าเขาพูดว่า เจ้านายของผมเป็นคนเฮงซวยมาก ยังไม่ถือว่าเป็นการเปิดใจ แต่ถ้าวันถัดมาเขาบอกว่า ไม่รู้สิ บางครั้งผมรู้สึกว่าเจ้านายไม่แฮปปี้กับผลงานของผมเลย นี่ละถือว่าเปิดใจแล้ว ดังนั้นควรแสดงให้เขารู้ว่าเราปลาบปลื้มยินดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้กระโดดกอดคอเขาแล้วร้องกรี๊ดๆว่า ที่รักจ๋า! ในที่สุดคุณก็ยอมเปิดใจกับฉันแล้ว (เพราะถ้าโดนแบบนี้เขาจะปิดปากเงียบไปตลอดกาล) เทคนิคคือรับรู้สิ่งที่เขาพูดมาเป็นข้อมูลแต่อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต นั่นคือ หนึ่ง-ให้เขารู้ว่าการที่เปิดเผยความกลัวให้เรารับรู้ไม่ได้ทำให้เขาดูด้อยลงในสายตาเรา สอง-นี่คือเรื่องปกติ สาม-การเปิดใจกับเราเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ดังนั้นสิ่งที่ควรพูดคือ เราคิดว่าใครๆก็ต้องกังวลเรื่องแบบนี้บ้างเหมือนกัน และอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้น หลังจากนั้นปล่อยให้เขาระบายออกมา พอจบแล้วเราก็ปิดท้ายว่า เราดีใจที่เขาบอกเรื่องนี้ให้เรารู้ ทำให้เรารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
ยิ่งผู้หญิงเปิดเผยมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเปิดใจมากเท่านั้น
ถ้าเราสบายๆ กับการพูดถึงเรื่องที่น่าอาย หรืออะไรที่ทำให้เราดูงี่เง่านิดๆ เขาก็จะทำตามบ้าง
ถามเขาไปเลย
ถ้าคิดว่าเขากำลังกลุ้มกังวลกับเรื่องบางเรื่อง ก็ถามเขาไปเลยตรงๆ แล้วตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบของเขาให้ดี หลังจากนั้นลองถามนำเขาด้วย เช่น เขารู้สึกอย่างไรในตอนนั้น โกรธ? สับสน? ผิดหวัง? ใช่ค่ะ นี่คือการเอาคำพูดมายัดใส่ปากเขา แต่มันก็คือการสอนให้ผู้ชายรู้จักพูดถึงความรู้สึกข้างในออกมา
อย่าเหมาว่าอาการเงียบคือการไม่ใส่ใจ
นี่คือความแตกต่างหลักๆ ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดอยู่ในหัวสมอง วันนี้ผู้ชายอาจพูดถึงปัญหาของตัวเองว่า เจ้านายจู้จี้น่ารำคาญจริงๆ หลังจากนั้นพอเวลาผ่านไปสักระยะเขาจะบอกทางออกของปัญหาเลย เช่น ตัดสินใจส่งใบสมัครงานกับบริษัทอื่นแล้ว ช่วงระหว่างกลางของปัญหาและทางออกนั้น เขาคิดทบทวนด้วยตัวเองเงียบๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาขอคำแนะนำอะไรจากผู้ชาย เขาจะบอกว่าขอคิดดูก่อน เขาไม่ได้บอกปัดแต่นี่คือวิธีที่ผู้ชายจัดการกับปัญหา ในทางกลับกันผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ซึ่งจริงๆ แล้วผู้หญิงชื่นชอบการเปิดเผยทุกความคิดที่อยู่ในหัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงจะพูดว่า เดี๋ยวฉันจะไปธนาคารก่อนแล้วค่อยไปซื้อของทีหลัง อุ้ย ไม่สิ ไปซื้อของก่อนแล้วไปธนาคารทีหลัง เพราะมันอยู่บนทางผ่าน อ้าวตายจริง เกือบลืมแน่ะ ฉันต้องแวะเอางานไปทิ้งให้ลูกค้า วันนี้วันเสาร์แท้ๆ ยังต้องทำงานอีกหรือนี่ เอ๊ะ แล้วกางเกงสีดำอยู่ที่ไหน...นี่ไงเจอแล้ว ที่รักจ๋าวันนี้อยากทานอะไรเป็นมื้อเย็น ฉันจะได้แวะซื้อเข้ามา ว่าไงจ้ะที่รัก ฉันรู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียวเลยนะเนี่ย (ใช่เลย...พูดคนเดียวจริงๆ) และคำตอบที่ได้อาจจะเป็น เดี๋ยวอีกชั่วโมงจะโทรหา ซึ่งหมายความว่าเขาหวังว่าถึงตอนนั้นเธอคงเข้าประเด็นสำคัญแล้ว
ไอซ์คิดว่าความรักป็นสิ่งที่ดีถ้าทุกคนรักให้ป็น รักด้วยความจริงใจ พอใจในรัก เดียว
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยเดียวที่ทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันยืนยาวเกิน 4 ปีคือ การแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน ยิ่งแบ่งปันความรู้สึกให้กันและกันมากเท่าไร ก็ยิ่งครองรักกันเนิ่นนานเกิน 4 ปีมากเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีผลการสำรวจระบุว่า เหตุผลใหญ่ที่ทำให้ชีวิตแต่งงานล้มเหลวก็คือ การที่สามีไร้ความสามารถในการแสดงความรู้สึก
ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก และยิ่งให้พูดจาอธิบายถึงความในใจละก็...ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้ความสัมพันธ์อยู่ยืนยาวต่อไปผู้หญิงจึงควรกระตุ้นให้ผู้ชายยอมเปิดใจด้วยการ
ให้เขารู้ว่าเราให้ความสำคัญกับการพูดคุยกัน
บอกเขาไปตรงๆเลยว่า เรารู้ว่าเขาอึดอัดที่จะพูดถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ แต่ถ้าลองพยายามดูมันก็จะมีความหมายกับเรามาก แล้วอธิบายเหตุผลด้วย หรือไม่ก็หาหนังสือที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์มาให้เขาอ่าน เน้นเรื่องการสื่อสารกันระหว่างคนรัก
ให้รางวัลถึงแม้เขายอมเปิดปากแค่นิดหน่อย
ถ้าเขาพูดว่า เจ้านายของผมเป็นคนเฮงซวยมาก ยังไม่ถือว่าเป็นการเปิดใจ แต่ถ้าวันถัดมาเขาบอกว่า ไม่รู้สิ บางครั้งผมรู้สึกว่าเจ้านายไม่แฮปปี้กับผลงานของผมเลย นี่ละถือว่าเปิดใจแล้ว ดังนั้นควรแสดงให้เขารู้ว่าเราปลาบปลื้มยินดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้กระโดดกอดคอเขาแล้วร้องกรี๊ดๆว่า ที่รักจ๋า! ในที่สุดคุณก็ยอมเปิดใจกับฉันแล้ว (เพราะถ้าโดนแบบนี้เขาจะปิดปากเงียบไปตลอดกาล) เทคนิคคือรับรู้สิ่งที่เขาพูดมาเป็นข้อมูลแต่อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต นั่นคือ หนึ่ง-ให้เขารู้ว่าการที่เปิดเผยความกลัวให้เรารับรู้ไม่ได้ทำให้เขาดูด้อยลงในสายตาเรา สอง-นี่คือเรื่องปกติ สาม-การเปิดใจกับเราเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ดังนั้นสิ่งที่ควรพูดคือ เราคิดว่าใครๆก็ต้องกังวลเรื่องแบบนี้บ้างเหมือนกัน และอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้น หลังจากนั้นปล่อยให้เขาระบายออกมา พอจบแล้วเราก็ปิดท้ายว่า เราดีใจที่เขาบอกเรื่องนี้ให้เรารู้ ทำให้เรารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
ยิ่งผู้หญิงเปิดเผยมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเปิดใจมากเท่านั้น
ถ้าเราสบายๆ กับการพูดถึงเรื่องที่น่าอาย หรืออะไรที่ทำให้เราดูงี่เง่านิดๆ เขาก็จะทำตามบ้าง
ถามเขาไปเลย
ถ้าคิดว่าเขากำลังกลุ้มกังวลกับเรื่องบางเรื่อง ก็ถามเขาไปเลยตรงๆ แล้วตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบของเขาให้ดี หลังจากนั้นลองถามนำเขาด้วย เช่น เขารู้สึกอย่างไรในตอนนั้น โกรธ? สับสน? ผิดหวัง? ใช่ค่ะ นี่คือการเอาคำพูดมายัดใส่ปากเขา แต่มันก็คือการสอนให้ผู้ชายรู้จักพูดถึงความรู้สึกข้างในออกมา
อย่าเหมาว่าอาการเงียบคือการไม่ใส่ใจ
นี่คือความแตกต่างหลักๆ ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดอยู่ในหัวสมอง วันนี้ผู้ชายอาจพูดถึงปัญหาของตัวเองว่า เจ้านายจู้จี้น่ารำคาญจริงๆ หลังจากนั้นพอเวลาผ่านไปสักระยะเขาจะบอกทางออกของปัญหาเลย เช่น ตัดสินใจส่งใบสมัครงานกับบริษัทอื่นแล้ว ช่วงระหว่างกลางของปัญหาและทางออกนั้น เขาคิดทบทวนด้วยตัวเองเงียบๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาขอคำแนะนำอะไรจากผู้ชาย เขาจะบอกว่าขอคิดดูก่อน เขาไม่ได้บอกปัดแต่นี่คือวิธีที่ผู้ชายจัดการกับปัญหา ในทางกลับกันผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ซึ่งจริงๆ แล้วผู้หญิงชื่นชอบการเปิดเผยทุกความคิดที่อยู่ในหัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงจะพูดว่า เดี๋ยวฉันจะไปธนาคารก่อนแล้วค่อยไปซื้อของทีหลัง อุ้ย ไม่สิ ไปซื้อของก่อนแล้วไปธนาคารทีหลัง เพราะมันอยู่บนทางผ่าน อ้าวตายจริง เกือบลืมแน่ะ ฉันต้องแวะเอางานไปทิ้งให้ลูกค้า วันนี้วันเสาร์แท้ๆ ยังต้องทำงานอีกหรือนี่ เอ๊ะ แล้วกางเกงสีดำอยู่ที่ไหน...นี่ไงเจอแล้ว ที่รักจ๋าวันนี้อยากทานอะไรเป็นมื้อเย็น ฉันจะได้แวะซื้อเข้ามา ว่าไงจ้ะที่รัก ฉันรู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียวเลยนะเนี่ย (ใช่เลย...พูดคนเดียวจริงๆ) และคำตอบที่ได้อาจจะเป็น เดี๋ยวอีกชั่วโมงจะโทรหา ซึ่งหมายความว่าเขาหวังว่าถึงตอนนั้นเธอคงเข้าประเด็นสำคัญแล้ว
ไอซ์คิดว่าความรักป็นสิ่งที่ดีถ้าทุกคนรักให้ป็น รักด้วยความจริงใจ พอใจในรัก เดียว
ราศีพิจิก
สาวราศีพิจิก
สาวพิจิกรักความรู้สึกโล่งๆ ว่างๆ มีเสรีภาพ เป็นคนฉลาดหลักแหลม เอาชนะคนได้ด้วยปัญญา เป็นคนซื่อตรงน่ารัก ยกเว้นบางเวลาที่เธออยากทำลายบางอย่างให้พินาศ ก็จะทำได้ในทันทีเช่นกัน เธอไม่ใช่คนสวยเท่าไรนัก แต่เป็นสาวที่ชายหนุ่มติดใจและอยากรู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง บุคลิกท่วงท่าหน้าตา สาวพิจิกมีใบหน้าคม สวย โดยเฉพาะนัยน์ตาของเธอ คมแสนคม มองมาทีไร ทำเอาหัวใจแปล๊บๆ เต้นโครมคราม ไปตามๆกัน รูปร่างดี และกลัวความอ้วนมาก เธอจะดูแลร่างกายของเธอให้สเลนเดอร์เสมอ ถึงรูปร่างเธอจะค่อนไปทางผอม แต่ทรวดทรงตรงที่เธอความมีเธอก็มี ดังนั้นคุณไม่ต้องกลัวว่าได้เธอเป็นแฟนแล้วจะผิดหวัง ท่าเดินของสาวแมงป่องนี้เหลือร้าย เธอเดินเร็วเหวี่ยงตะโพกและทอดขา สามารถทำให้ชายตะลึง ถึงกับต้องเหลียวหลังกลับมามองเธอจนลับสายตาเชียว อุปนิสัย แมงป่องสาวเก็บความลับเก่ง แต่มีความสามารถดึงความลับออกมาจากคนอื่นได้ เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ถือว่าตัวเองเป็นใหญ่ และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เธอต้องการ ทันสมัย เปรี้ยวปรี๊ด นั่นแหละสาวพิจิก เธอชอบแต่งตัวเฉี่ยว ทันสมัย สีสดใส จนใครๆ ต้องมองเหลียวหลัง ชอบผ้าพันคอ ผ้าโพกผม น้ำหอมกลิ่นยวนใจ พอคุณได้สูดน้ำหอมของเธอสักหน คุณอาจตาลายล้มตึงเอาง่ายๆ สาวพิจิกเป็นสาวสมัยใหม่ คุณตามเธอไม่ค่อยทันหรอก เธอสูบบุหรี่ดื่มเหล้า ดื่มเก่งเสียด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีชีวิตชีวา อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย แต่ไม่ค่อยเลิกล้มความตั้งใจง่ายนัก กว่าคุณจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ คุณก็แทบแย่เหมือนกัน เมื่อรู้จักเธอแล้วคุณจะพบว่าชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่เหมือนความตั้งใจของเธอหรอก เธอเป็นคนหัวแข็งอย่างที่สุด ไม่มีใครเทียบได้ เมื่อโกรธจะระเบิด ทายใจยาก นาทีนี้หัวเราะ อีกประเดี๋ยวโมโหซะแล้ว เธอจะทำให้คุณหัวหมุนไม่รู้จะเอายังไงถูก วิธีมัดใจ สาวราศีนี้ไม่ใช่สาวที่คุณจะนัดปุปเจอได้ปัป เธอไม่ชอบหรอกมันไม่ใช่สไตล์ของเธอ ถ้าลอบๆ แอบๆ ซ่อนๆ ละก้อมีหวังจีบได้ง่ายกว่า ความลึกลับทำให้เธอตื่นเต้น เวลาจะพาเธอไปไหนกินอะไร ทำยังไง คุณต้องเก็บเป็นความลับก่อน ถึงเวลานัดจริงๆ ค่อยเอาออกมาใช้ ข้อควรระวัง คุณต้องตรงเวลา อย่าได้อืดอาดยืดยาดเป็นอันขาด จะจีบเธอทั้งทีอย่าทำให้เธอเก้อ จะไปไหนควรเกริ่นๆ กับเธอไว้บ้างเธอจะได้แต่งตัวถูก ถึงเวลากิน ไม่ต้องพาไปร้านหรูนัก ขอให้เป็นที่เงียบๆ มีอาหารทะเลก็จะดี สาวพิจิกส่วนมากชอบทานอาหารทะเล ในช่วงเวลาแรกๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน คุณอย่าทำตัวเป็นคนมือไวกับเธอเชียว อย่าเพิ่งจับมือถือแขนเธอ เธออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ถ้าเธอไม่เอ็นจอย คุณก็แห้วพอดี เธออ่านยาก วิธีรักจึงต้องใช้เทคนิคบวกประสบการณ์อย่างซุปเปอร์ ไม่งั้นก็จะพังหลังจากนัดเจอกัน 1 – 2 หนแรก เพราะฉะนั้นคุณต้องหมั่นตามเธอให้ทัน เธอต้องการอะไรหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ถมเท่าไรไม่ค่อยจะเต็ม เธอจะให้คุณคอยตามเอาใจอยู่เรื่อย ต้องการให้ซื่อตรงและภักดีต่อเธอ ห้ามหลอกลวงเธอ ถ้าเธอเจอว่าคุณเคยหลอกให้เธอหลง ก็คอยดูฤทธิ์เดชของแม่เถอะ
ความสัมพันธ์กับหนุ่มราศีอื่น
มีความสัมพันธ์ที่ดีและเหมาะที่จะเป็นคู่ของชาวราศีต่อไปนี้
กันย์ (24 สิงหาคม – 23 กันยายน) ตุลย์ (24 กันยายน – 23 ตุลาคม) ธนู (23 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม)
วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การทำงานของคอมพิวเตอร์
1.อุปกรณ์ใดถือเป็นหม้อเเปลงไฟฟ้าของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่อะไร
ตอบ Power Supply มีหน้าที่เป็น หม้อแปลงไฟฟ้าของระบบ เนื่องจาก อุปกรณ์ทุกชิ้น ที่ติดตั้งอยู่ภายใน PC นั้น จะต้องได้รับ ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง มาจาก Power Supply ด้วยกันทั้งสิ้น
2.ภายใน PC จะประกอบด้วยส่วนต่างๆมากมาย เเต่ส่วนใดถือเป็นศูนย์กลางในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่การทำงานอย่างไร
ตอบ Microprocessor มีหน้าที่ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก ถ้าเราเปรียบ PC กับการทำงานของมนุษย์แล้ว เราจะเปรียบ CPU ได้เท่ากับเป็นสมองของมนุษย์เลยทีเดียว คุณคงจะคุ้นเคยกันดี เวลาเลือกซื้อ PC ที่มักจะต้องคำนึงถึง CPU กันก่อน ว่าจะเลือกใช้ Pentium III, Celeron หรือ Athlon ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของ CPU ได้เป็นอย่างดี .
3.สิ่งเเรกที่ต้องคำนึงก่อนการเลือกซื้อ PC คือ? เพราะอะไร?
ตอบ Central Processing Unit (CPU) เพราะถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และเป็นศูนย์กลาง การทำงานของ PC ตัว CPU นั้น ถือว่าเป็น microprocessor ประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถ ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก.
4.Power Supply ถือเป็นหม้อเเปลงของระบบ หาก Power Supply มีปัญหา จะเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์ เเละมีวิธีการเเก้อย่างไร อธิบาย
ตอบ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่มีการไหลเวียนของกระเเสไฟฟ้า
ตอบ Power Supply มีหน้าที่เป็น หม้อแปลงไฟฟ้าของระบบ เนื่องจาก อุปกรณ์ทุกชิ้น ที่ติดตั้งอยู่ภายใน PC นั้น จะต้องได้รับ ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง มาจาก Power Supply ด้วยกันทั้งสิ้น
2.ภายใน PC จะประกอบด้วยส่วนต่างๆมากมาย เเต่ส่วนใดถือเป็นศูนย์กลางในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เเละมีหน้าที่การทำงานอย่างไร
ตอบ Microprocessor มีหน้าที่ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก ถ้าเราเปรียบ PC กับการทำงานของมนุษย์แล้ว เราจะเปรียบ CPU ได้เท่ากับเป็นสมองของมนุษย์เลยทีเดียว คุณคงจะคุ้นเคยกันดี เวลาเลือกซื้อ PC ที่มักจะต้องคำนึงถึง CPU กันก่อน ว่าจะเลือกใช้ Pentium III, Celeron หรือ Athlon ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของ CPU ได้เป็นอย่างดี .
3.สิ่งเเรกที่ต้องคำนึงก่อนการเลือกซื้อ PC คือ? เพราะอะไร?
ตอบ Central Processing Unit (CPU) เพราะถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และเป็นศูนย์กลาง การทำงานของ PC ตัว CPU นั้น ถือว่าเป็น microprocessor ประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถ ในการจัดการคำสั่ง และการประมวลผลที่มีความซับซ้อน เป็นอย่างมาก.
4.Power Supply ถือเป็นหม้อเเปลงของระบบ หาก Power Supply มีปัญหา จะเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์ เเละมีวิธีการเเก้อย่างไร อธิบาย
ตอบ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่มีการไหลเวียนของกระเเสไฟฟ้า
วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สำหรับแม่น้อยกว่านี้ได้อย่างไร
รักแม่? ความรักของแม่ คือ ความรักที่เสียสละ
คือ ความรักที่มีแต่การให้
คือ ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
คือ ความรักของแม่คือการได้เห็นลูกประสบความสำเร็จ
ลูกก็ ขอโทษที่ทำผิดไป
ขอโทษที่ชอบเถียง
ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง
ขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ
ยังไง ลูกก็ ขอบคุณที่ทำให้เกิดมา
ขอบคุณที่ทำให้มีวันนี้
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
ต่อจากนี้ชีวิตลูกจะทำเพื่อแม่ ให้แม่ภูมิใจ
ลูกคนนี้รักแม่ที่สุดในโลก
คือ ความรักที่มีแต่การให้
คือ ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
คือ ความรักของแม่คือการได้เห็นลูกประสบความสำเร็จ
ลูกก็ ขอโทษที่ทำผิดไป
ขอโทษที่ชอบเถียง
ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง
ขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ
ยังไง ลูกก็ ขอบคุณที่ทำให้เกิดมา
ขอบคุณที่ทำให้มีวันนี้
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
ต่อจากนี้ชีวิตลูกจะทำเพื่อแม่ ให้แม่ภูมิใจ
ลูกคนนี้รักแม่ที่สุดในโลก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)